ย้ำอีกทีกับกฎจราจรที่คนไทยมักละเลย ฝ่าฝืนจนถูกปรับอยู่เรื่อย

ผู้ใช้รถบางคน หรือหลาย ๆ คน มักมีคติประจำตัวในการขับรถแบบแปลก ๆ อย่างกฎมีไว้แหก จึงไม่แปลกที่ในแต่ละเดือนจะมีใบสั่งติดจรวดส่งไปรษณีย์ตามมาให้ถึงหน้าบ้าน เยอะขนาดที่จ่ายแทบไม่หวาดไม่ไหว เป็นค่าใช้จ่ายหลักในแต่ละเดือนเลยก็ว่าได้ ก็จะไม่ให้เยอะได้อย่างไร เพราะกฎที่แหกไม่ได้มีแค่หนึ่งหรือสองกฎ มีมากมายทั้งที่รู้ตัวและไม่รู้ตัว วันนี้เราจะนำลิสต์กฎจราจรที่คนไทยมักละเลย ฝ่าฝืนกันอยู่เป็นประจำมาฝาก เผื่อจะช่วยเตือนใจสิงห์นักขับผู้คึกคะนองได้บ้าง ว่ากฎจราจรบางกฎนั้นตั้งไว้เพื่อสวัสดิภาพความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนน หากฝ่าฝืนอาจเกิดอันตรายที่บางครั้งประกันชั้น 1 ก็ไม่สามารถช่วยฟื้นคืนความสูญสลายบางอย่างให้กลับมาได้

1.ขับรถความเร็วเกินกำหนด

ต้องเท่าไหร่จึงจะถือว่าเป็นความเร็วตามที่กฎหมายกำหนด ที่ผ่านมากฎกระทรวงกำหนดอัตราความเร็วของยานพาหนะบนทางหลวงแผ่นดินหรือทางหลวงชนบทอยู่ที่ไม่เกิน 90 กม./ชม. ทำให้ผู้ใช้ถนนหลาย ๆ คนโดนใบสั่งกันไปถ้วนหน้า ยิ่งถ้าเป็นเส้นทางที่ต้องเดินทางไกลข้ามเขตจังหวัด การขับรถระยะไกลทำให้มักเผอเรอขับเร็วเกิน 90 แบบไม่รู้ตัวอยู่เป็นประจำ แต่เมื่อเดือนมีนาคม 2564 ที่ผ่านมาได้มีการปรับอัตราความเร็วที่ใช้บนท้องถนนใหม่ โดยกำหนดให้สามารถใช้ความเร็วได้ไม่เกิน 120 กม./ชม. และผู้ที่ขับในเลนขวาต้องขับด้วยความเร็วไม่ต่ำกว่า 100 กม./ชม. เชื่อได้ว่าหากกฎใหม่นี้ได้ข้อสรุปที่แน่นอนแล้ว คงทำให้ใบสั่งที่ส่งไปที่บ้านลดน้อยลงไปกว่าครึ่งเลยทีเดียว

2.ขับแช่เลนขวา

คนไทยหลายคนมักตีความคำว่า “ขับช้าชิดซ้าย” แบบผิด ๆ เพราะประโยคสั้น ๆ แต่ไม่เคลียร์ จึงทำให้ผู้ขับขี่บาง

คนที่คิดว่าตัวเองขับไวแล้ว เลยขับแช่อยู่ที่เลนขวา และเมื่อมีรถที่ขับไวกว่ามาจ่อท้าย ก็ไม่ยอมที่จะหลีกทางให้จนกลายเป็นอุบัติเหตุจากการขาดน้ำใจบนท้องถนนที่พบได้อยู่บ่อยครั้ง ถึงแม้ผู้ที่ขับไวกว่านั้นจะขับด้วยความเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด แต่นั่นเป็นการกระทำผิดกฎหมายในส่วนของเขา ไม่ใช่ของเรา เพราะเอาเข้าจริงเลนขวานั้นมีไว้สำหรับการแซงแต่เพียงเท่านั้น การไม่ขับแช่ขวาจึงจะเป็นมารยาทและกฎจราจรที่ถูกต้อง

3.ไฟเหลืองก็ยังไปได้

เอาเข้าจริงกฎจราจรข้อนี้เชื่อว่าเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ของผู้ใช้รถใช้ถนนรู้อยู่แล้วว่าไฟเหลืองคือต้องหยุด ชะลอ หรือเตรียมตัวหยุด แต่หลาย ๆ คนมากทำตรงกันข้าม พอเห็นไฟเหลืองแล้วกลับรีบออกแรงเหยียบคันเร่ง เพื่อให้ไปให้ทันก่อนไฟแดง นอกจากอาจไปไม่ทันไฟสัญญาณจราจรที่เปลี่ยนจากเหลืองเป็นแดง จนทำให้ต้องฝ่าไฟแดงแล้ว การขับขี่ด้วยความเร็วในช่วงไฟเหลืองยังเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุอีกด้วย งานนี้ประกันชั้น 1 ยังยินดีมอบความคุ้มครอง เว้นเสียแต่เหตุฝ่าไฟแดงมาจากการ “เมาแล้วขับ” ที่ประกันจะรับผิดชอบแค่ในส่วนของคู่กรณีเท่านั้น (เงื่อนไขความคุ้มครองแล้วแต่บริษัท)

4.ลืมว่ารถมีไฟเลี้ยวติดมาให้ด้วย

เป็นคำประชดประชันสำหรับคนที่มักลืมเปิดไฟเลี้ยวอยู่เป็นประจำ จนทำให้อดคิดไม่ได้ว่า เขาเหล่านี้คงลืมไปว่ารถแต่ละคันนั้นผู้ผลิตได้ผลิตไฟเลี้ยวแถมมาให้ด้วย เพราะผ่านไปกี่แยกต่อกี่แยกไม่เคยจะเปิดไฟเลี้ยวสักครั้ง เพราะการไม่เปิดไฟเลี้ยวนั้นไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ ผิดกฎหมายการจราจรทางบก โดยกฎหมายกำหนดให้ต้องเปิดก่อนเลี้ยวไม่น้อยกว่า 30 เมตร เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการขับขี่ และลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุชนท้ายกันอีกด้วย

5.ขับรถยนต์บนไหล่ทาง

หากไม่ใช่เพราะเหตุจำเป็นฉุกเฉิน อย่างรถเสีย รถพยาบาลเร่งส่งคนเจ็บ หรือบริเวณนั้นเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้การจราจรติดขัดในชั่วขณะ จนทำให้ตำรวจทางหลวงต้องเปิดเลนเพิ่มใหม่เพื่อแก้สถานการณ์นั้น ๆ การขับรถบนไหล่ทางด้วยตัวคุณเอง จะทำให้คุณถูกเรียกให้จอดเสียค่าปรับได้ หรือมีค่าปรับตามไปเก็บคุณถึงหน้าประตูบ้านผ่านไปรษณีย์

เชื่อได้ว่าการกระทำทั้งหมดที่กล่าวมา ผู้ใช้รถหลาย ๆ คนคงเคยทำกันแทบจะครบทุกข้อ ด้วยเพราะลืมบ้าง หรือละเลยบ้าง แต่เมื่อได้อ่านบทความนี้แล้ว เราหวังว่าคงพอช่วยเป็นส่วนหนึ่งให้คุณได้ขับขี่อย่างมีระเบียบวินัย และเคารพกฎจราจรกันมากขึ้น เพราะการละเลยเท่ากับความประมาท และความประมาทถือเป็นสาเหตุอันดับต้น ๆ ที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุทุกอย่างบนโลกใบนี้ อุบัติเหตุที่ประกันชั้น 1 อาจช่วยคุ้มครองได้บ้าง ไม่ได้บ้าง หรือบางเหตุการณ์อาจรุนแรงเกินที่จะมอบความคุ้มครอง การป้องกันก่อนเกิดเหตุการณ์เลวร้ายน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด ที่จะทำให้คุณใช้รถใช้ถนนได้อย่างปลอดภัย